HAIRY CRAB
เริ่มต้นก่อนใคร เทศกาลปูขน2024
เปิดจำหน่ายแล้ว..วันนี้
Geographical Indication คือตราสัญลักษณ์รับรองทางภูมิศาสตร์ ซึ่งปูขนจากทะเลสาบหยางเฉิง ได้รับถูกรับรองตราสัญลักษณ์นี้จากทางการจีน เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบคุณภาพของปู ทางการจึงจัดทำQrcode เพื่อการรันตรีได้ว่า ปูที่ท่านได้รับเป็นปูแท้ที่มาจากแหล่งธรรมชาติทะเลสาปหยางเฉิง หรือไม่โดยภายในQrcodeจะระบุฐานข้อมูล ของปูแต่ละตัวที่ถูกจับภายในปีนี้ ว่าเป็นปูผู้หรือเมีย เป็นตัวที่เท่าไหร่ของปี จับได้จากที่ไหน วันเวลาใด เป็นต้น..
เนื่องจากปูจะมีความสมบูรณ์สูงสุด ในระยะเวลาเพียงสั้นๆของปีเท่านั้น (พ.ย-ม.ค) ซึ่งเป็นฤดูเขาพอดี ทั้งไข่และมันปูจะเต็มกระดองทั้งตัวผู้และตัวเมียเนื่องจากเป็นช่วงฤดูหนาว ปูจึงผลิตไขมัมเป็นจำนวนมาก และรสชาติสัมผัสจึงดีเยี่ยมสุด ส่วนใหญ่ช่วงต้นเดือนพฤจิกายน คนจะนิยมทานตัวเมีย พอช่วงปลายเดือนคนก็จะหันมาทานตัวผู้แทน และรสชาติปูก็จะด้อยลงเรื่อยๆมันและไข่จะแข็งขึ้นจนหมดฤดู
ปูขนที่มาจากทะเลสาปหยางเฉิงจริงๆ จะเป็นการเลี้ยงแบบธรรมชาติ ขั้นตอนการเลี้ยงต้องเป็นตามที่ทางการกำหนดเท่านั้น ในแต่ละปีสามารถจับปูขนได้ทั้งหมดไม่เกิน25,000ตัน แต่ถ้าลองไปสำรวจตลาด กลับพบว่ามีการขายปูขนที่อ้างว่าเป็นปูขน จากทะเลสาปหยางเฉิงกัน ถึงปีละกว่า 100,000 ตันเลยทีเดียว วิธีการทำปูเก๊ก็มีตั้งแต่การเอาปูธรรมดามาแช่ในน้ำที่มาจากแม่น้ำในเมืองหยางเฉิงก่อนหลายๆ ชั่วโมงแล้วจึงนำออกขาย บ้างก็ผสมสารสังเคราะห์บางอย่างลงไปเพื่อให้ปูเจริญเติบโตมามีลักษณะคล้ายปูขนหยางเฉิง และตัวอาจจะใหญ่กว่าปกติ แต่รสชาติต่างกันโดยสิ้นเชิง(สำหรับคนที่เคยลองทานของแท้ๆแล้ว สำหรับคนที่ไม่เคยลองทาน อาจจะไม่รู้) ตลอดจนการทำ Qrcode ปลอม ..ของแท้ๆจริงๆ จึงหาทานยาก
ราคาปูขนขึ้นอยู่กับ ปัจจัยหลายอย่าง ตั้งจำนวนปูที่จับ ขนาด น้ำหนักและความสมบูรณ์ ของปู รวมทั้งแหล่งที่มาว่าจับมาจากแหล่งไหน มีใบรับรองถูกกฎหมายไหม ได้มาตรฐานจริงรึป่าว เป็นปูแท้หรือปูปลอม ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบได้จาก Qrcode ที่มากับปู แต่ปูที่เรานำเข้ามาบ้างตัวที่ไม่มีQrcode ไม่ได้แปลว่าเป็นปูปลอมเพียงแต่ ขนาดของปูไม่ได้มาตรฐาน คือเล็กเกินไปแค่นั้นเอง จึงไม่ถึงเกินที่ติดQrcode
ซึ่งเคยมีคนบันทึกไว้ว่าเทศกาลกินปูขน มีมาตั้งแต่สมัย100ปีที่แล้ว สมัยก่อนถือว่าเป็นอาหารสำหรับคนชั้นสูงเท่านั้น และสามารถจับได้เป็นจำนวนน้อยในแต่ละปี คนทั่วไปจึงไม่ค่อยมีโอกาสได้กินหรือแม้กระทั้งรู้จักเลยด้วยซ้ำ ปัจจุบันเทศกาลกินปูขน เริ่มแล้วแต่แต่ต้นเดือนพฤจิกายนที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ปูขนอร่อยที่สุด เป็นฤดูกาลการเก็บเกี่ยวปูขนซึ่งเป็นหนึ่งในเมนูอาหาร ยอดนิยมของคนจีน เทศกาลกินปูขนนี้ในปีนี้ได้จัดขึ้นที่บริเวณทะเลสาบหยางเฉิง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีน โดยสำนักการเกษตรและกิจการชนบทเมืองซูโจว ระบุว่าปริมาณปูขนที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวได้ในปีนี้อยู่ที่ 28,250 ตัน โดยในปีนี้คาดว่าปริมาณปูตัวใหญ่จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเนื่องด้วยสภาพอากาศที่ดีขึ้น
ลักษณะพิเศษที่ทำให้ปูขนแตกต่างจากปูชนิดอื่นก็คือ จะมีขนตรงบริเวณก้ามปูและขาปู ยิ่งถ้าตรงบริเวณขาปูมีขนออกสีเหลืองทองอ่อน ถือว่าเป็นปูขนที่สมบูรณ์มากๆ ซึ่งในช่วง 3 เดือนที่จัดงานเทศกาลนี้ ถือว่าเป็นช่วงที่ปูขนมีความอุดมสมบูรณ์ และเหมาะแก่การลิ้มรสเป็นที่สุด ปูขนจักรพรรดิภายในตัวปูจะอวบอิ่มไปด้วยไข่หวานและมันจำนวนมากที่เยิ้มๆ แตกต่างจากปูบ้านเรามีเนื้อแน่นๆ แต่มันน้อย ลักษณะเด่นคือมีขนสีทองอ่อนตามก้ามและขา หาทานและเพลิดเพลินกับปูนี้ได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนจนถึงเดือนธันวาคม เป็นช่วงที่ปูขนจะสร้างมันมากที่สุดทำให้รสชาติหวานและนุ่มลิ้น ถึงตัวปูจะเล็กถ้าเทียบกับปูบ้านเรา แต่รสชาติต่างกันเยอะ
ปูขน หรือ ปูก้ามขน หรือ ปูเซี่ยงไฮ้ ภาษาอังกฤษเรียก Chinese mitten crab หรือ Shanghai hairy crab ส่วนภาษาจีน : 大閘蟹, 上海毛蟹; และคำว่า sinensis (/ไซ-เนน-ซิส/) มีความหมายว่า "อาศัยในประเทศจีน" เป็นครัสเตเชียนจำพวกปูชนิดหนึ่ง ปูขนมีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน พบอาศัยอยู่ตามทะเลสาบในประเทศจีน เจริญเติบโตอยู่ในสภาพอากาศหนาว และน้ำที่เย็นจัด อุณหภูมิของน้ำต่ำกว่า 10 องศาเชลเชียส บริเวณที่พบมากและเป็นที่รู้จักกันดีคือ ทะเลสาบหยางเฉิง (อังกฤษ: Yangcheng Lake; จีน: 阳澄湖; พินอิน: Yángchéng Hú) เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดเล็ก ตั้งทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือห่างจากเมืองซูโจว ในมณฑลเจียงซู ประเทศจีน ประมาณ 3 กิโลเมตร (1.9 ไมล์) เป็นแหล่งที่มีชื่อเสียงที่เป็นต้นกำเนิดของปูขนจักรพรรดิหรือปูขนเซียงไฮ้ นอกจากนี้ยังพบในเกาะไต้หวัน และบางส่วนของคาบสมุทรเกาหลีไปจนถึงทะเลเหลือง แต่น้อยมาก
มีวงจรชีวิตอาศัยอยู่ในทะเลสาบที่มีน้ำสะอาดและเย็นจัด เมื่อถึงช่วงฤดูร้อนจะอพยพไปผสมพันธุ์และวางไข่ในทะเลหรือดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ปูขนที่มีร่างกายสมบูรณ์จะมีขนเป็นประกายสีเหลืองทองอ่อน โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว คือ ในปลายปีของทุกปี คือ เดือนตุลาคม-ธันวาคม
สำหรับชาวไทยรู้จักรับประทานปูขนมาไม่ต่ำกว่า 30 ปีแล้ว ถึงขนาดเมื่อถึงฤดูหนาวจะเดินทางไปฮ่องกงเพื่อรับประทานปูขนโดยชนิด หรือซื้อกลับมายังประเทศไทยโดยแช่แข็งไว้ในกระติกน้ำแข็ง แต่ปัจจุบันก็สามารถหารับประทานได้ในประเทศไทย โดยวิธีการปรุงปปูขนนั้นก็กระทำได้โดยง่าย โดยใช้วิธีการนึ่งเพียง 15 นาทีเท่านั้น อาจจะมีการใส่สมุนไพรหรือพืชบางชนิดลงไปเพื่อให้ความหอม และรับประทานพร้อมกับจิ๊กโฉ่ว หรือซอสเปรี้ยวของจีน หรือสุราแบบจีน และต้องรับประทานน้ำขิงเป็นของตบท้าย เพื่อปรับสภาพหยินหยางในร่างกายให้สมดุล
ปูขนจัดเป็นอาหารจีนที่มีชื่อเสียงอย่างมาก และจัดเป็นอาหารที่หายาก มีราคาแพง นับเป็นอาหารระดับฮ่องเต้ เนื่องจากมีจำหน่ายเฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น เพราะเป็นฤดูผสมพันธุ์ ที่ปูตัวผู้จะมีเนื้อรสชาติหวาน และปูตัวเมียจะมีไข่ เนื่องจากชาวจีนมีความเชื่อว่า ปูขนต้องเป็นปูที่มีความทรหดอดทนมาก เนื่องจากสามารถใช้ชีวิตผ่านฤดูหนาวที่อากาศหนาวเหน็บมาได้ เชื่อว่าหากได้กินเนื้อแล้วจะทำให้แข็งแรงเหมือนปู ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ทำให้ร่างกายอบอุ่น แก้โรคคออักเสบ รักษาอาการทางเดินอาหารไม่ปรกติ รวมทั้งมีผลในการถอนพิษด้วย ทำให้มีราคาซื้อขายที่สูงมาก ทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่, ไต้หวัน หรือฮ่องกง
**ขอขอบคุณ ข้อมูลจากวิกิพีเดีย**